สมมติฐาน 3 รัฐแรกคือฟูนัน ( ส่วนอาณาจักรแรกชาวอ้ายไตลาวคือ อ้ายลาว ไม่มี น่านเจ้าแต่มีต้าลี่)
ดินแดนตอนใต้ ของบูรพาทวีป หรือสุวรรณภูมิ นั้นเดิมเชื่อว่าไม่เคยมีนครรัฐหรือ อาณาจักร ของชาวอ้ายไตลาว มาก่อน เชื่อว่าอารยธรรมแรกคือ อาณาจักรนามเวียต ในเขตลุ่มน้ำแดงชายทะเลอ่าวตั๋งเกี๋ย (ปัจจุบัน) จนกระทั่งยุคสมัยจักรพรรดิจิ๋นซี ได้ขยายอาณาจักร รุกรานไปครอบคลุมลุ่มน้ำแยงซีเกียง และชายฝั่งทะเลตะวันออก จนถึงอ่าวตั๋งเกี๋ย ครอบครองอาณาจักรนามเวียต อย่างไรก็ตามอาณาจักรจีนไม่อาจรุกคืบลงครอบครองทางใต้เขตยูนนาน หรือเสฉวน ซึ่งดินแดนนี้มีชนเผ่าที่เป็นบรรพชนอ้ายไตลาว ที่สืบเชื้อสายชาติพันธุ์ ชาวเขา ในดินแดนสุวรรณภูมิที่ได้อพยพขึ้นเหนือ ตามลำน้ำและขุนเขาไปสู่ดินแดนตอนใต้บูรพาทวีป และที่มีชนเผ่าลุ่มน้ำเป็นกลุ่มใหญ่ มีความเจริญด้านสังคม หมู่บ้าน ชุมชนเมือง ที่เรียกว่า “การสร้างบ้านแปงเมือง” ทำเษตรกรรม ปลูกข้าวนาดำ กินข้าวเหนียวเป็นหลัก นับถือผีฟ้า หรือแถน และผีบรรพชน มีผู้หญิงเป็นใหญ่ในครอบครัว ลูกคนโตและคนรองลงไปจะต้องแยกตัวไปสร้างครอบครัวใหม่ ลูกคนเล็กสุดท้องจะรับภารกิจดูแลครอบครัวแทนพ่อแม่สืบไป และได้รับอิทธิพล การสร้างนครรัฐจากบูรพาคติ มีการวิวัฒนาการ สร้างบ้านแปงเมืองเป็น นครรัฐ ที่เป็นเอกลักษณ์ ในแบบชาวอ้ายไตลาวอีกทั้งด้วยวัฒนธรรมออกเรือนดังกล่าว ส่งผลให้ลูกหลานชาวอ้ายไตลาว ได้ออกสำรวจดินแดนใหม่เพื่อสร้างบ้านแปงเมืองใหม่ ทั่วทั้งดินแดนสุวรรณทวีป ตั้งแต่เหนือจดใต้ และตะวันออกยันตะวันตกเรียกว่า โซเมีย(Zomia) ชาวบรรพชนอ้ายไตลาวดังกล่าวจึง ร่วมกับชนเผ่าทางใต้ ร้อยพันเผ่า ก่อเกิดนครรัฐชนชาวอ้ายไตลาวเป็นใหญ่ปกครองมากมาย อย่างไรก็ตาม นครรัฐสำคัญที่เก่าแก่ที่รวมเป็น อาณาจักรเริ่มแรกของชาวอ้ายไตลาว มีการผสมผสานเหล่าชาติพันธุ์ สายเลือดอ้ายไตลาว กับคนพื้นเมืองต่างๆในแถบดินแดนต่างๆ รวมกันเป็นอาณาจักรอ้ายไตลาว ที่รวมนครรัฐ ๖ นครรัฐที่มีศูนย์กลางที่หนองแส จนกระทั่งยุค จีน 3 ก๊ก รวมเป็นอาณาจักรต้าลี่ ทั้งนี้อาณาจักรชาวอ้ายไตลาว มีรูปแบบการปกครองที่มีความสัมพันธ์ ระหว่างนครรัฐเป็นอาณาจักรแบบสหพันธรัฐ ไม่ใช่เป็นจักรวรรดิ์แบบชนชาวจีน แต่มีความเข้มแข็งต้านการรุกรานจากจีนได้หลายร้อยปี อย่างไรก็ตามการรุกรานขยายอำนาจและอาณาเขตของชาวมองโกลนำสู่การแตกแยกและอาณาจักรต้าลี่ล่มสลาย ส่วนบรรพชนอ้ายไตลาว จากตอนใต้จีนได้อพยพลงใต้ โดยระลอกนี้ กลุ่มที่อพยพลงมาตามลำน้ำโขง ดังนั้นชาวบรรพชนอ้ายไตลาวจึงได้ไปตั้งเป็นอาณาจักรยวนโยนกเชียงแสน(ทางเหนือ)ครอบคลุมเมืองเชียงรุ่ง เชียงตุง เมืองมาวและเชียงแสน(เงินยาง) และอาณาจักรอ้ายลาวหรือเชียงทอง ( ตอนกลางลุ่มน้ำโขง)ครอบคลุม เมืองเชียงขวางและเมืองเชียงทอง(ชวาหรือหลวงพระบาง) ส่วนชาวอ้ายไตลาวจากลุ่มน้ำโขงจากเชียงทองบางส่วนได้อพยพ สู่ลุ่มน้ำท่าจีน แม่กลองและเจ้าพระยา รวมกับชนชาวอู่ทอง เดิม ตั้งเป็นนครรัฐสุพรรณภูมิ
ในช่วงเวลาเดียวกัน ณ ดินแดนคาบสมุทรสุวรรณภูมิและเกษียรสมุทร ได้มีคลื่นผู้อพยพจากอนุทวีปหรือชมพูทวีป ได้แก่ ชาวทมิฬ โจฬะ กลิงค์ และอาแจะ กลุ่มชนเหล่านี้ได้ผสมผสานชาวพื้นเมืองแขกดำ ยึดครองพื้นที่ดินแดนเกษียรสมุทรและชายฝั่งทะเลหรืออนครรัฐเมือองท่าการค้าที่สำคัญ ซ่องสุมกำลังอาวุธต่างๆ สร้างเมืองท่าการค้าทางชายฝั่งทะเล นำศาสนาพราหมณ์ฮินดูและระบบกษัตริย์จากอินเดียมาตั้งนครรัฐแบบอินเดีย โดยนครรัฐแรกเรียกชื่อตามเอกสารจีน ว่า ‘ฟูนัน’ หรือนครแห่งภูเขา ที่มีราชวงศ์แห่งภูเขาปกครอง ครอบครองอาณาเขตตั้งแต่ชายฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงใต้และอ่าวทอง(อ่าวไทย ในปัจจุบัน) ศูนย์กลางความเจริญอยู่ที่เมืองออกแก้ว ปากแม่น้ำโขง และมีเมืองท่าสำคัญกระจายตามลุ่มต่างๆคือลุ่มน้ำป่าสัก เจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง ครอบคลุมดินแดนด้านตะวันตกสุวรรณภูมิและแผ่ลงไปในแหลมสุวรรณภูมิถึงช่องแคบโพธินารายณ์ ผู้ปกครองฟูนันที่สืบเชื้อสายพวกทมิฬโจฬะกับชนพื้นเมือง เชื่อว่าเป็นบรรพชนของชนชาติขแมร์หรือเขมรปัจจุบัน ในส่วนทางดินแดนชายฝั่งทะเลตะวันออกสุดจุดของสุวรรณภูมิเป็นเมืองท่าของชาวจาม ที่ผสมผสานชนพื้นเมืองชาวเลหรือออสโตรโพลีนีเชียน ชำนาญการเดินเรือและได้รับอิทธิพลศาสนาพราหมณ์ฮินดู
จุดเปลี่ยนสำคัญ ในยุคสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ผู้เป็นองค์มหาราชาแห่งอนุทวีปได้ทำสงครามขยายอาณาจักรทำให้พวกทมิฬ โจฬะยพยพมาเพิ่มสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มนครรัฐแดนเษียณสมุทรในทะเลตะวันตก อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่งพระเจ้าอโศกมหาราช ได้เผยแพร่ขยายพระพุทธศาสนาสู่สุวรรณภูมิแม้ว่า ส่งอิทธืพลในกลุ่มผู้ปกครองนครรัฐสู่การเปลี่ยนแปลงด้านการปกครองแบบมหาราชา และอิทธิพลการค้าขายทางทะเลที่มีการเดินเรือสินค้าตามแนวชายฝั่งส่งผลให้ อาณาจักรในสุวรรรณภูมิเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ... โดยได้มีการเปลี่ยนแปลง มีการผสมผสาน ความเชื่อผี พราหมณ์ และพุทธมหายาน มีความเจริญทั้งทางเศรษฐกิจ การค้าทางทะเลที่เชื่อมโยงกับผืนดินสุวรรณประเทศและพัฒนาการเมืองการ ปกครองนำสู่การเป็นสหราชอาณาจักรแบบพุทธศาสนจักร
ดินแดนแถบลุ่มน้ำมูล น้ำชี ตอนใต้เป็นเส้นทางการค้าสำคัญใหม่ที่เชื่อมภาคตะวันตกกับดินแดนตอนกลางกับตอนใต้ลุ่มน้ำโขงซึ่งมีชาวทมิฬโจฬะกลุ่มใหม่ที่ผสมผสานคนพื้นเมืองและสัมพันธ์ทางเครือญาติกับละโว้ ได้ตั้งนครรัฐใหม่คือเจนละ ทีมีศูนย์กลางที่เศรษฐปุระ ที่นับถือศาสนาพราหมณ์ฮินดู และเริ่มนำระบบมหาราชาแบบจักรพรรดิรวมศูนย์อำนาจ มีความเข้มแข็งสามารถรุกราน อาณาจักรฟูนันออกจากดินแดนลุ่มแม่น้ำโขงตอนใต้ กษัตริย์เจนละ ก่อตั้งอาณาจักรเจนละและเจริญมากภายใต้ราชวง์จิตเสน ครองอำนาจแทนอาณาจักรฟูนัน
การรุกรานของเจนละ ทำให้กษัตริย์และชาวฟูนัน ให้ถอยร่นไปดินแดนแหลมสุวรรณภูมิตอนกลางและปลายสุดแหลม ได้ผสมผสานชาวพื้นเมืองมลายูในดินแดนเกาะทอง ส่วนกลุ่มชาวทมิฬ โจฬะและอาแจะที่อาศัยดินแดนเกาะในดินแดนเกษียรสมุทร โดยกลุ่มโจฬะที่ผสมผสานชาวจามเรียกตนว่าโจฬะน้ำที่ชำนาญการเดินเรือสร้างสมความเจริญทางทัพเรือ ครอบครองเกาะบอร์เนียว ส่วนชาวอาแจ๊ะครอบครอง เกาะสุมาตรา และ ชาวกลิงค์ ทมิฬ โจฬะครอบครอง เกาะชวา
ทั้งนี้ชาวฟูนันราชวงศ์ไศเรนทร์ ที่ดินแดนแหลมสุวรรณภูมิได้เริ่มฟื้นฟูเมืองใหม่เป็นเมืองท่าทางแหลมมลายูและดินแดนเกษียรสมุทร เป็นนครรัฐต่างๆ มีศูนย์กลางที่ลุ่มน้ำตาปีหรืออาณาจักรศรีโพธิที่เป็นพุทธมหายาน และดินแดนใต้ช่องแคบโพธินารายณ์ลงไป ที่เป็นที่ตั้งอาณาจักรลังกาสุกะที่เป็นศูนย์กลางฮินดูหรือศาสนาพราหมณ์รูปแบบใหม่ ต่อมา อาณาจักรศรีโพธิ มีอำนาจเหนือ ลังกาสุกะ แผ่ขยายอิทธิพลพุทธมหายานเหนือทุกอาณาจักรดินแดนแหลมมลายู เจริญสืบต่อเป็นสหราชอาณาจักรศรีวิชัย ครองอิทธิพลการค้าทางทะเลสุวรรณทวีปทั้งหมดในยุคสมัยต่อมา
…
ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงภายในอาณาจักรเจนละ แตกเป็น2อาณาจักร จากการรุกรานจากภายนอก โดยกลุ่มโจฬะน้ำจากเกาะดินแดนเกษียรสมุทร ได้เข้าโจมตีอาณาจักรจามตอนใต้และรุกคืบดินแดนปากน้ำโขงและรอบๆโตนเลสาป ตั้งเป็นอาณาจักรเจนละน้ำ ทำให้กลุ่มราชวงศ์จิตรเสน ต้องถอยร่นไปเขตดินแดนลุ่มน้ำมูล น้ำชี ตั้งเป็นอาณาจักรเจนละบก....นอกจากการเปลี่ยนแปลงภายในอาณาจักรเจนละดังกล่าว ได้เกิดความแตกแยกภายในอาณาจักรละโว้ ที่เป็นศุนย์กลางวัฒนธรรมทวาราวดีทั้งสุวรรณภูมิ แตกออกเป็นนครรัฐอู่ทอง นครพระธม ลพบุรี และเพชรบุรีที่นับถือพุทธเถรวาท รวมเป็นอาณาจักรละโว้ อีกครั้งมีศูนย์กลางที่ลพบุรี ภายใต้ราชวงค์ชนชาติขอมที่เป็นเครือญาติกับขแมร์ ส่วนแดนชายฝั่งตะวันตกกลุ่มชนชาวรามัญ หรือมอญ ได้ตั้งเป็นอาณาจักรมอญ
ในส่วนอาณาจักรเจนละน้ำกษัตริย์อ่อนแอ และถูกรุกรานอาณาจักรชวาทวีป(ราชวงศ์ไศเรนทร์)และจาม จนเกิดสภาพกลียุคอยู่ใต้อำนาจอาณาจักรชวาทวีปหรือศรีโพธิ จึงเป็นโอกาสกลุ่มพราหมณ์ศิวไกลวัลย์ และพ่อค้าจากอินเดีย กลุ่มใหม่ต้องการอำนาจคุ้มครองการค้าจึงก่อกบฎกับกลุ่มราชวงศ์เดิม ยึดครองอาณาจักรเจนละน้ำ และสนับสนุนพระมหากษัตริย์องค์ใหม่นาม ชัยวรมันที่ ๒ ผู้ที่สืบเชื้อสายท้าวพันศรีเทพที่ถูกจับตัวเป็นประกันในดินแดนชวาทวีป ถือเริ่มต้นยุคเริ่มแรกก่อนนำสู่ความเจริญของเมืองพระนคร สถาปนาระบบการเมืองการปกครองแบบใหม่ที่เป็นแบบเทวราช ชนชั้นกษัตริย์เป็นอวตารเทพมาปกครองโลกมนุษย์ ตั้งเป็นสหราชอาณาจักรกัมพูชาหรือขแมร์
ด้านชายฝั่งตะวันตกที่กลุ่มชาติพันธุ์ต้นสายพยูหรือเพียว(Pyu) มอญโบราณ (Pegu)และพม่าโบราณ (Pagan) จากทิเบตและตะวันตกของจีน โดยกลุ่มชาวพยูที่เป็นกลุ่มคนที่มาเจริญเป็นอาณาจักรศรีเกษตรระยะสั้นๆ
ต่อมาด้วยความเจริญการค้าของเมืองท่าด้านตะวันตก ทำให้กลุ่มชนชาวพม่าโบราณ (Pagan)คือต้นสายบรรพชนคนพม่าปัจจุบัน อพยพมามีความเจริญได้ตั้งอาณาจักรพุกาม
ส่วนกลุ่มชนชาวมอญโบราณ (Pegu) ผสมผสานชาวกลิงค์จากอินเดียกับชนพื้นเมืองเป็นบรรพชนชนชาติมอญ หรือรามัญ (RaMan) ทำให้เมืองท่าด้านตะวันตกมีความเข้มแข็งขึ้นจึงแยกตัวจากอาณาจักรฟูนันเรียกว่า ‘ละโว้’ นับถือพุทธศาสนามหายาน อันเป็นจุดเริ่มการผสมผสานวัฒนธรรมทวาราวดีที่นับถือพุทธเถรวาทและขยายอิทธิพลเพื่อรักษาเส้นทางการค้าทางบกคืออาณาจักรเงินยาง และอาณาจักรหริภุญชัย รวมทั้งดินแดนลุ่มน้ำ โขง ชี มูน และป่าสัก รวมเป็นสหราชอาณาจักรทวาราวดี ต่อมาสหราชอาณาจักรกัมพูชาหรือขแมร์ แล้วแผ่ขยายอิทธิพล เหนือดินแดนอาณาจักรเจนละบกและดินแดนภายใต้อารยธรรมทวาราวดี เจริญสู่การเป็นจักรวรรดิขแมร์ ครอบครองเหนือ ทุกลุ่มน้ำในดินแดนสุวรรณภูมิ ครองอิทธิพลการค้าทางบกและเมืองท่าชายฝั่งทะเลปากแม่น้ำแถบสุวรรณภูมิ หลายร้อยปี
ภายหลังที่จักรวรรดิขแมร์ เสื่อมอำนาจ อาณาจักรต่างๆทั้งใหญ่และเล็กในสุวรรณภูมิได้เป็นอิสระต่อกัน และต่างพยายาม รักษาผลประโยชน์ตนเองและก่อสงครามแย่งชิงผู้คนและอาณาเขต อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้ แบ่งอาณาเขตอาณาจักรใหม่ได้ดังนี้
สุวรรณภูมิตะวันตก มีการเปลี่ยนจาก อาณาจักรพุกาม(Pagan) ขยายอำนาจและอาณาเขตในดินแดนเดิมอาณาจักรศรีเกษตรแตกเป็น อาณาจักรตองอู แถบลุ่มน้ำสาละวินและอาณาจักรมอญ ขยายอำนาจและอาณาเขตในลุ่มและอิระวดี
สุวรรณภูมิตอนใต้ อาณาจักรมัชปาหิต ที่เป็นเชื้อสายผสมผสานอินโดมลายู (เป็นชาวพื้นเมืองมลายู จามและผู้คนจากอินเดียตอนใต้คือทมิฬโจฬะอาแจะ กลิงค์) ขยายอำนาจแทนอาณาจักรศรีวิชัยครอบคลุมอาณาเขตแหลมทองตอนใต้และดินแดนเกษียรสมุทร มีศูนย์กลางอำนาจที่เกาะชบาทวีปหรือชวา มีอิทธิพลเป็นศูนย์กลางการค้าทางทะเลที่สำคัญ ภายหลัง อาณาจักรมัชปาหิต อ่อนแอลงทำให้เกิดอาณาจักรศิริธรรมและแคว้นปัตตานี และรัฐเล็กรัฐน้อยในแหลมทองตอนใต้หรือแหลมมลายู ในส่วน อาณาจักรศิริธรรมที่ต่อมาล่มสลายจากโรคระบาด และภายหลังได้กษัตริย์เชื้อสายราชวงศ์ไศเรนทร์จากพริบพรี(เพชรบุรี) มาตั้งเมืองใหม่คือศรีธรรมราช (นครศรีธรรมราช) ส่วนดินแดนสุวรรณภูมิตะวันออกสุดแบ่งเป็น อาณาจักรจามทางเขตตอนใต้และอาณาจักรได๋เวียตทางตอนเหนือ
ส่วนอาณาจักรของเชื้อสายอ้ายไตลาว ที่พูดภาษาไต-กะได แบ่งเป็น๓อาณาจักรคือดินแดนสุวรรณภูมิเหนือ อาณาจักรล้านนา ได้รวบรวมแว่น แคว้นลุ่มน้ำโขงตอนบน ลุ่มน้ำกก ปิง วัง ยม น่าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายอ้ายไตลาว ได้แก่เชียงแสน เชียงรุ่ง เชียงตุง ๑๒จุไท หริภุญชัย หิรัญเงินยาง เมืองมาว เมืองแพร่ เมืองน่าน แล้วตั้งเมืองหลวงแห่งใหม่คือเชียงใหม่ ส้วนอาณาจักรล้านช้างได้รวบรวมแว่นแคว้น ลุ่มน้ำโขง ซี มูน อ้ายไตลาวเชียงทอง อ้ายไตลาวเวียงจันทน์ และแคว้นจำปาศักดิ์(เดิมรวมกันอยู่ในอาณาจักรศรีโคตรบอง) และอาณาจักรล้านเพีย หรือสยาม ดินแดนของอ้ายไตลาวสายทวาราวดีหรือมอญได้รวบรวมแว่นแคว้นแม่น้ำท่าจีน หรือแม่กลอง ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำป่าสัก ได้แก่สุพรรณภูมิ ละโว้ พิษณุโลก สุโขทัย พริบ พรีแ มีเมืองหลวงคืออโยธยา เรียกใหม่ว่าอาณาจักรอโยธยา เริ่มเรียกตนเองว่าคนไท อโยธยาได้รับการสนับสนุนจากอาณาจักรเจ็ก ทำให้สายราชวงศ์สุพรรณภูมิครองอำนาจ ขณะที่อาณาจักรขแมร์เมื่ออ่อนกำลังลง จึงถูกล้านเพียหรืออโยธยาหรือสยาม รุกรานกลับกวาดต้อนชนชั้นปกครองกษัตริย์ พราหมณ์ มาอโยธยาและปล่อยให้พวกชาวพื้นเมืองหรือชาวบ้านที่ก่อกบฎและปราบดาตนเป็นกษัตริย์ยุคใหม่ เป็นขแมร์จตุรมุข ขแมร์ละแวก ขแมร์ศรีสุนทร และขแมร์อุดง ...
อโยธยาเป็นเมืองท่าการค้าที่เป็นศูนย์กลางการเชื่อมการค้าทางบกและทางทะเลของสุวรรณภูมิ จึงมีความมั่งคั่ง และมั่นคงด้วยขีดความสามารถทางทหารคุ้มกันการค้า และรูปแบบการปกครองที่นำมาจากจักรวรรดิ์ขแมร์ จึงขยายอำนาจอาณาเขตปกครอง ประเทศราชต่างๆได้แก่ อาณาจักรล้านนา อาณาจักรขแมร์ใหม่ อาณาจักรมอญ อาณาจักรศรีธรรมราช อาณาจักรปัตตานี และไทรบุรี ทั้งนี้เพื่อคงไว้ในการควบคุมเส้นทางการค้า ทางบกและทางทะเล อโยธยาเจริญรุ่งเรืองเป็นเมืองท่านานาชาติ มีการติดต่อการค้ากับทั้งเจ็ก อินเดีย เปอร์เซีย และยุโรป
ขณะเดียวกันอาณาจักรตองอู เริ่มเข้มแข็งจากการรบชนะอาณาจักรมอญ ยะไข่ อารกัน ผนวกรวมเป็นอาณาจักรตองอู ส่วน อาณาจักรล้านนา มีสถานะเป็นประเทศราชของตองอู และเมื่อตองอูควบคุมการค้าเมืองท่าเมาะตะมะ สู่ดินแดนตอนเหนือสุวรรณภูมิ ผ่านล้านนา จึงเริ่มมั่งคั่งและขยายอำนาจแข่งกับอาณาจักรอโยธยา ในที่สุดเมื่ออโยธยาอ่อนแอ ราชวงศ์แตกแยกจึงตกเป็น ประเทศราชตองอู แต่ไม่นานก็สามารถกลับมาเป็นอิสระและคงอำนาจไว้ได้เช่นเดิม
ส่วนตองอูถูกมองโกลรุกรานเสื่อมลง แยกเขตตะวันตกสุวรรภูมิ เป็นอาณาจักรอังวะและมอญ ต่อมา อังวะภายใต้ราชวงศ์คองบอง เริ่มเข้มแข็ง และกลับมารุกรานอโยธยา จนอโยธยาล่มสลาย แตกเป็นก๊กต่างๆ แย่งชิงอำนาจกัน ในที่สุดก๊กพระยาตากสิน ก็สามารถตีก๊กต่างๆ และผลักดันทหารอังวะออกจากอโยธยา แล้วตั้งอาณาจักรธนบุรีกลับมาครองอำนาจรวมล้านนา ล้านช้าง นครศรีธรรมราช ปัตตานี ไทรบุรีและขแมร์อุดง เป็นประเทศราช ต่อมาธนบุรีเกิดกบฎ สังหารพระเจ้ากรุงธนบุรี(ตากสิน) สถาปนาอาณาจักรรัตนโกสินทร์ หรือราชอาณาจักรสยามที่ควบคุมสุวรรณภูมิตอนเหนือตอนกลางและตอนใต้ ได้อย่างมั่นคง
อาณาจักรรัตนโกสินทร์ ขยายอำนาจเหนือดินแดนสุวรรภูมิ ตั้งแต่เหนือจดใต้ถึงคาบสมุทรมลายู ส่วนอังวะ มีอำนาจเหนือดินแดนสุวรรณภูมิตะวันตก และอาณาจักรได๋เวียต ครองอำนาจเหนือดินแดนสุวรรณภูมิตะวันออก ส่วนดินแดนเกษียรสมุทร อาณาจักรศรีวิชัย แตกสลายเป็นนครรัฐน้อยใหญ่ โดยนครรัฐขนาดใหญ่ที่ครองอำนาจมากที่สุดคืออาณาจักรมัชปาหิช …
ช่วงเวลาต่อมาเป็นช่วงที่ชนชาติยุโรปตะวันตก มีความเจริญแบบก้าวกระโดดจากการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ จึงมีการสร้างอาวุธ ใหม่ๆที่มีประสิทธิภาพสูง เกิดกองเรือรบคู่กับกองเรือสินค้า และการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ ภายใต้ยุทธศาสตร์ขยายอิทธิพล อาณานิคมของยุโรป เกิดจักรวรรดิครอบครองดินแดนตะวันออกและการสำรวจดินแดนโลกใหม่ทางตะวันตก มีการแข่งขันและการ แบ่งเขตอิทธิพล ของฝรั่งเศส อังกฤษ ฮอลันดา โปรตุเกสและสเปญ ไปทั่วโลก
อังกฤษยึดครองอาณานิคม เอเชียตั้งแต่ อินเดีย อังวะ สิงคโปร์ มลายู และเจ็ก ฝรั่งเศสครอบครองล้านช้าง จาม เวียตน้ำ และขแมร์ รวมเรียกอินโดจีน โปรตุเกสครอบครองเกาะฟิลิปิ นส์ ฮอลันดาครอบครองเกาะชวา และสุมาตรา คงไว้แต่ราชอาณาจักรสยามที่เป็นรัฐกันชน ภายหลังสยาม เปลี่ยนชื่อเป็น ประเทศไทย …
และสิ่งที่พวกตะวันตกได้ทำไว้คือการแบ่ง แยกชาวอ้ายไตลาว และชาวสุวรรณภูมิเดิมที่เกี่ยวพันเป็นเครือญาติ มีวัฒนธรรมพุทธศาสนาเถรวาทเป็นหลักยึด ให้เป็นคนเชื้อชาติ ที่แตกต่างกัน เป็นรัฐชาติ ไทยสยาม ลาว เขมร พม่า เวียตนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ ในปัจจุบัน (ปีที่เขียน พ.ศ. 2565)